หน้า 95
1. จงอธิบายความหมายของธาตุ
พร้อมทั้งยกตัวอย่างประกอบ
(ธาตุ หมายถึง
สสารที่ประกอบด้วยอนุภาคเพียงชนิดเดียว
ไม่สามารถนำมาแยกสลายให้กลายเป็นสารอื่น ๆ
ได้ โดยวิธีการทางเคมี เช่น
แก๊สออกซิเจน 1 โมเลกุล
ประกอบด้วย อนุภาคของธาตุออกซิเจน 2 อะตอม)
2 น้ำหวาน น้ำตาลทราย น้ำคลอง แก๊สออกซิเจน
สารชนิดใดไม่สามารถแยกได้
โดยวิธีการทางกายภาพ เพราะเหตุใด
(น้ำตาลทรายและแก๊สออกซิเจน
ไม่สามารถแยกได้โดยวิธีการทางกายภาพ
เพราะจัดเป็นสารบริสุทธิ์
มีองค์ประกอบเป็นสารเพียง 1 ชนิดเท่านั้น)
3 จากแผนภูมิปริมาณของธาตุต่าง ๆ ที่เป็นส่วนประกอบของโลก
ธาตุที่มีปริมาณมากที่สุดในโลก คือธาตุชนิดใด
และมีปริมาณเท่าไร
(ธาตุออกซิเจน
มีประมาณ 51%)
4 แคลเซียมและฟอสฟอรัสเป็นธาตุที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของกระดูกและฟัน
ในร่างกายมีปริมาณเท่าไร
ตามลำดับ
(มีแคลเซียม 1.5%
และมีฟอสฟอรัส 1% ตามลำดับ)
5 ถ้านักเรียนมีน้ำหนัก 40 กิโลกรัม
จะมีออกซิเจนเป็นส่วนประกอบในร่างกายเท่าไร
(26 กิโลกรัม)
หน้า 98-102
1 สัญลักษณ์ธาตุคืออะไร
(สัญลักษณ์ธาตุ คือ เครื่องหมายซึ่งใช้แทนชื่อธาตุเพื่อให้เข้าใจตรงกันเป็นสากล)
2 สัญลักษณ์ธาตุที่นักเรียนรู้จักมีแบบใดบ้าง
จงยกตัวอย่างประกอบ



2. สัญลักษณ์ของธาตุที่เป็นตัวอักษร
เช่น C แทนคาร์บอน O แทนออกซิเจน
H แทนไฮโดรเจน K แทนโพแทสเซียม)
H แทนไฮโดรเจน K แทนโพแทสเซียม)
3 สัญลักษณ์ที่จอห์น
ดอลตัน เสนอให้ใช้มีลักษณะอย่างไร พร้อมยกตัวอย่างประกอบ
(สัญลักษณ์แบบรูปภาพ
โดยกำหนดให้ใช้รูปวงกลมที่มีสีหรือรายละเอียดภายในวงกลม

4 จงเขียนสัญลักษณ์ธาตุเป็นแบบตัวอักษร
จากสัญลักษณ์ธาตุแบบรูปภาพ
ที่กำหนดให้ต่อไปนี้
5 จากตารางธาตุ
ธาตุที่อยู่ในหมู่ 4A คาบที่
2 คือธาตุอะไร
(ธาตุคาร์บอน)
6 เงินเป็นโลหะที่นำไฟฟ้าได้ดีที่สุด ให้นักเรียนเขียนสัญลักษณ์ของธาตุเงิน
พร้อมทั้งระบุหมู่และคาบ
ตามลำดับ
(สัญลักษณ์ของธาตุ คือ Ag อยู่หมู่ 1B คาบที่ 5)
7 จากตารางธาตุ แคลเซียม (Ca) ไนโตรเจน (N) ออกซิเจน (O) ซิลิคอน (Si) และคลอรีน
ธาตุเหล่านี้อยู่ในคาบและหมู่ใดตามตารางธาตุ
(แคลเซียม
อยู่หมู่ 2A
คาบ 4
ไนโตรเจน
อยู่หมู่ 5A
คาบ 2
ออกซิเจน
อยู่หมู่ 6A
คาบ 2
ซิลิคอน
อยู่หมู่ 4A
คาบ 3
คลอรีน
อยู่หมู่ 7A
คาบ 3)
กิจกรรมที่ 3.1 เรื่อง ศึกษาสมบัติของธาตุในธรรมชาติ
1 ปัญหาของการทำกิจกรรมนี้คืออะไร
(ธาตุแต่ละชนิดมีสมบัติเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร)
2 นักเรียนคาดคะเนว่าสารแต่ละชนิดมีสมบัติเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
(อาจมีสมบัติบางอย่างคล้ายกัน
เช่น สถานะ สี การนำไฟฟ้า แต่อาจมีสมบัติบางอย่างแตกต่างกัน)
คำถามหลังกิจกรรม
1 ผลการศึกษาสมบัติของธาตุแต่ละชนิดเป็นไปตามที่นักเรียนคาดคะเนหรือไม่
อย่างไร
(เป็นไปตามที่คาดคะเน คือ ธาตุแต่ละชนิดอาจมีสมบัติบางอย่างคล้ายกัน
แต่มีสมบัติบางอย่างแตกต่างกัน เช่น กำมะถันกับแมกนีเซียม
มีสถานะเป็นของแข็งเหมือนกัน แต่มีสีและสมบัติ อื่น ๆ ต่างกัน คือ
กำมะถันมีสีเหลือง เปราะ ไม่นำไฟฟ้าและไม่นำความร้อน จุดเดือด-จุดหลอมเหลวต่ำ
ส่วนแมกนีเซียม มีสีเงิน เป็นมันวาว แข็งและเหนียว นำไฟฟ้าได้ จุดเดือดและจุดหลอมเหลวสูง)
2 นักเรียนได้ศึกษาสมบัติของธาตุแต่ละชนิดด้วยวิธีการใดบ้าง
จงอธิบาย
( 1. สังเกตสมบัติทางกายภาพภายนอกโดยใช้ประสาทสัมผัส
2. ทำการทดลองเพื่อศึกษาสมบัติทางกายภาพอื่น
ๆ เช่น การนำไฟฟ้า
การนำความร้อน
การละลายน้ำ ความแข็ง
3. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับสมบัติทางกายภาพและสมบัติทางเคมีอื่น
ๆ จากอินเทอร์เน็ตและหนังสือต่าง ๆ)
3 ธาตุที่นักเรียนไปศึกษามามีธาตุชนิดใดบ้างที่มีสมบัติคล้ายคลึงกัน
จงยกตัวอย่างประกอบ
(กำมะถันและไอโอดีนมีสมบัติบางประการคล้ายกัน เช่น สถานะของแข็ง ไม่นำไฟฟ้า
ไม่นำความร้อน
เปราะ และจุดหลอมเหลวใกล้เคียงกัน)
4 ให้นักเรียนรวบรวมสมบัติของธาตุทุกชนิดที่นักเรียนทุกคนในห้องได้ไปศึกษา
มาแล้วนำมาจำแนกประเภทของธาตุ
พร้อมทั้งระบุเกณฑ์ในการจำแนก
การนำไปใช้
5 ถ้านักเรียนใช้ความเป็นโลหะเป็นเกณฑ์จะจำแนกประเภทของธาตุได้กี่ประเภท อะไรบ้าง
(2
ประเภท คือ ธาตุที่เป็นโลหะ ได้แก่ ทองแดง เงิน เหล็ก และปรอท
และธาตุที่เป็นอโลหะ ได้แก่ แกรไฟต์ กำมะถัน ออกซิเจน และโบรมีน)
และธาตุที่เป็นอโลหะ ได้แก่ แกรไฟต์ กำมะถัน ออกซิเจน และโบรมีน)
6 ธาตุที่เป็นโลหะและอโลหะมีสมบัติแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
(-สมบัติของโลหะ คือ นำไฟฟ้าและนำความร้อนได้ดี
มีสถานะเป็นของแข็ง
ยกเว้นปรอทเป็นของเหลว เป็นมันวาว
ความหนาแน่นสูง
จุดเดือดและจุดหลอมเหลวสูง ตีเป็นแผ่นและดึงเป็นเส้นได้
- สมบัติของอโลหะ คือ ไม่นำไฟฟ้าและไม่นำความร้อน
มีได้ทั้ง 3 สถานะ
ยกเว้นแกรไฟต์ ไม่ส่องประกายแวววาว
ถ้าเป็นของแข็งจะเปราะแตกง่าย
ความหนาแน่นต่ำ จุดเดือดและจุดหลอมเหลวต่ำ)
7 จากตาราง
นักเรียนบอกได้หรือไม่ว่าธาตุใดเป็นโลหะ และธาตุใดเป็นอโลหะ
(ธาตุที่เป็นโลหะ
ได้แก่ ปรอท เหล็ก โซเดียม และแมกนีเซียม
ธาตุที่เป็นอโลหะ
ได้แก่ ไฮโดรเจน กำมะถัน คลอรีน โบรมีน ออกซิเจน และไอโอดีน)
8 จากตาราง ซิลิคอนควรเป็นโลหะ อโลหะ
หรือกึ่งโลหะ เพราะเหตุใด
(เป็นธาตุกึ่งโลหะ เพราะจุดเดือด จุดหลอมเหลวสูง นำไฟฟ้าได้เล็กน้อย
เป็นของแข็งมันวาว
ซึ่งมีสมบัติบางอย่างคล้ายโลหะและบางอย่างคล้ายอโลหะ จึงจัดเป็นธาตุกึ่งโลหะ)
ซึ่งมีสมบัติบางอย่างคล้ายโลหะและบางอย่างคล้ายอโลหะ จึงจัดเป็นธาตุกึ่งโลหะ)
9 ธาตุที่เป็นโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ
มีประโยชน์ในชีวิตประจำวันด้านใดบ้าง
พร้อมยกตัวอย่างประกอบ
(- ประโยชน์ของโลหะ
เช่น ทองแดงนำมาทำสายไฟฟ้า
ทองคำและเงินใช้ทำเครื่องประดับ
ปรอทใช้บรรจุในเทอร์มอมิเตอร์เพื่อบอกระดับอุณหภูมิ
อะลูมิเนียม ใช้ทำภาชนะหุงต้ม
เหล็กใช้ทำมีดหรืออุปกรณ์ที่ต้องการความแข็งแกร่ง
- ประโยชน์ของอโลหะ
เช่น แกรไฟต์ ใช้เป็นตัวนำไฟฟ้าในถ่านไฟฉาย ใช้ทำไส้ดินสอ
ออกซิเจน เป็นแก๊สที่ใช้ในการหายใจของสิ่งมีชีวิต
เป็นปัจจัยสำคัญในการเผาไหม้เชื้อเพลิง
-
ประโยชน์ของกึ่งโลหะ เช่น ซิลิคอน ใช้เป็นวัตถุกึ่งตัวนำในวงจรอิเล็กทรอนิกส์
ใช้เป็นส่วนประกอบในการประดิษฐ์เซลล์สุริยะ)
10 ธาตุ A เป็นของแข็ง
ส่องประกายแวววาว นำไฟฟ้าและนำความร้อนได้ดี
มีความหนาแน่น 7.8 กรัม ต่อลูกบาศก์เซนติเมตร จุดเดือด
1,090
ํC
จุดหลอมเหลว 650 ํC ธาตุ A ควรเป็นโลหะหรืออโลหะ
เพราะเหตุใด
(เป็นโลหะ
เพราะเมื่อพิจารณาจากสมบัติจะคล้ายโลหะ คือ นำไฟฟ้าและนำความร้อนได้ดี
มีความหนาแน่นสูง จุดเดือดและจุดหลอมเหลวสูง)
ธาตุกัมตรังสี
ธาตุกัมตรังสี
1 จงอธิบายความหมายของธาตุกัมมันตรังสี พร้อมทั้งยกตัวอย่างประกอบ
(ธาตุกัมมันตรังสี คือ
ธาตุที่สามารถสลายตัวและแผ่รังสีออกมาได้ เช่น ยูเรเนียม เรเดียม โคบอลต์-60)
2 นักเรียนจะรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับประโยชน์และโทษของธาตุกัมมันตรังสี
รวมทั้งแนวทางในการป้องกันและหลีกเลี่ยงกัมมันตภาพรังสีต่อชุมชน ประเทศอาเซียน
หรือโลกของเราได้อย่างไร
(จัดรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับธาตุกัมมันตรังสี
รวมทั้งแนวทางในการป้องกันและหลีกเลี่ยงกัมมันตรังสี
โดยใช้การจัดป้ายนิเทศ
การแข่งขันตอบปัญหา การประกวดคำขวัญ
ประกวดละครต่อต้านการใช้กัมมันตรังสีในอาหาร)
3
อาหารและผลผลิตทางการเกษตรที่ผ่านการฉายรังสีจะมีเครื่องหมายและข้อความที่ระบุว่า
ฉายรังสี กำกับไว้ เพื่อให้คนทั่วโลกได้เข้าใจตรงกัน เครื่องหมายดังกล่าวมีลักษณะอย่างไร
กิจกรรมรื่อง กล่องปริศนา
1 ปัญหาของการทดลองนี้คืออะไร
(ลักษณะและส่วนประกอบภายในกล่องปริศนาระหว่างการใช้ประสาทสัมผัสกับ
การใช้ลวดโลหะสอดเข้าไปภายในกล่องเหมือนหรือต่างกัน อย่างไร)
2 นักเรียนคาดคะเนว่ามโนภาพเกี่ยวกับลักษณะและส่วนประกอบภายในกล่องปริศนา
ที่ได้จากการใช้ประสาทสัมผัส และเมื่อใช้อุปกรณ์ คือ ลวดโลหะ ช่วยในการศึกษา
แบบใด
จะได้มโนภาพใกล้เคียงกับเมื่อเปิดฝากล่องออกดูมากกว่ากัน เพราะเหตุใด
(การใช้อุปกรณ์
คือ ลวดโลหะ ช่วยในการศึกษาน่าจะให้มโนภาพที่ใกล้เคียงความเป็นจริงมากกว่า
เพราะการใช้อุปกรณ์สามารถรวบรวมข้อมูลได้มากกว่า
จึงได้มโนภาพที่ใกล้เคียงกว่าไม่ใช้อุปกรณ์ใด ๆ)
เพราะการใช้อุปกรณ์สามารถรวบรวมข้อมูลได้มากกว่า
จึงได้มโนภาพที่ใกล้เคียงกว่าไม่ใช้อุปกรณ์ใด ๆ)
3 นักเรียนมีวิธีการศึกษาลักษณะและส่วนประกอบภายในกล่องปริศนาโดยไม่เปิดฝากล่องอย่างไร
จึงจะได้ข้อมูลใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด
(ใช้อุปกรณ์ช่วยในการศึกษา ทำซ้ำหลาย ๆ ครั้ง และรวบรวมข้อมูลจากสมาชิกหลาย ๆ คน
จึงนำข้อมูลทั้งหมดมาลงข้อสรุปเป็นมโนภาพ)
1 ผลการศึกษาเป็นไปตามที่นักเรียนคาดคะเนหรือไม่
(เป็นไปตามที่คาดคะเนไว้ คือ เมื่อใช้ลวดสอดเข้าไปภายในกล่อง
จะได้มโนภาพใกล้เคียงกับของจริงมากกว่าการใช้ประสาทสัมผัสเพียงอย่างเดียว)
2 จงเปรียบเทียบมโนภาพของลักษณะและส่วนประกอบภายในกล่องปริศนา
ที่ได้มาโดยการใช้ประสาทสัมผัสอย่างเดียวกับมโนภาพที่ได้จากการทดสอบ โดยใช้ลวดโลหะ
1 ผลการศึกษาเป็นไปตามที่นักเรียนคาดคะเนหรือไม่
(เป็นไปตามที่คาดคะเนไว้ คือ เมื่อใช้ลวดสอดเข้าไปภายในกล่อง
จะได้มโนภาพใกล้เคียงกับของจริงมากกว่าการใช้ประสาทสัมผัสเพียงอย่างเดียว)
2 จงเปรียบเทียบมโนภาพของลักษณะและส่วนประกอบภายในกล่องปริศนา
ที่ได้มาโดยการใช้ประสาทสัมผัสอย่างเดียวกับมโนภาพที่ได้จากการทดสอบ โดยใช้ลวดโลหะ
สอดเข้าไปภายในกล่องว่าแบบใดใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากกว่ากัน
(มโนภาพของลักษณะและส่วนประกอบภายในกล่องปริศนาที่ได้จากการทดสอบ
โดยใช้ลวดโลหะสอดเข้าไปภายในกล่องใกล้เคียงกับความจริงมากกว่า)
3 มโนภาพของนักเรียนแต่ละกลุ่มเกี่ยวกับลักษณะและส่วนประกอบภายใน
กล่องปริศนาเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
(บางกลุ่มคล้ายกัน แต่บางกลุ่มแตกต่างกัน)
4 เพราะเหตุใดมโนภาพเกี่ยวกับลักษณะและส่วนประกอบภายในกล่องปริศนา
ของแต่ละกลุ่มจึงแตกต่างกัน
(เพราะแต่ละกลุ่มมีประสบการณ์แตกต่างกัน จึงทำให้การนำข้อมูลที่ได้จากการสังเกต
มาลงข้อสรุปเป็นมโนภาพแตกต่างกัน)
5 แบบจำลองอะตอมคืออะไร และมีวิธีการศึกษาอย่างไร
(แบบจำลองอะตอม
คือ
มโนภาพเกี่ยวกับอะตอมของนักวิทยาศาสตร์
ที่ได้มาจากการนำข้อมูลที่ได้จากการทดลองและจากการศึกษา
โดยใช้เครื่องมือบางชนิด
มาสร้างเป็นมโนภาพของแบบจำลองอะตอม)
6 จงยกตัวอย่างแบบจำลองอะตอมที่นักเรียนรู้จักมา
2 ตัวอย่าง
สรุปผลการทำกิจกรรม
“แบบจำลองอะตอม
คือ มโนภาพเกี่ยวกับอะตอมของนักวิทยาศาสตร์
ที่ได้มาจากการนำข้อมูลจากการทดลองมาสร้างเป็นมโนภาพของอะตอมขึ้นมา
และเมื่อมีอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่ทันสมัยมากขึ้นอาจทำให้ได้ข้อมูลเพิ่มขึ้น
จึงทำให้แนวคิดเกี่ยวกับแบบจำลองอะตอมเปลี่ยนแปลงไปได้”
ที่ได้มาจากการนำข้อมูลจากการทดลองมาสร้างเป็นมโนภาพของอะตอมขึ้นมา
และเมื่อมีอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่ทันสมัยมากขึ้นอาจทำให้ได้ข้อมูลเพิ่มขึ้น
จึงทำให้แนวคิดเกี่ยวกับแบบจำลองอะตอมเปลี่ยนแปลงไปได้”
เรื่อง อะตอมและโมเลกุลของสาร
1 อนุภาคมูลฐานของอะตอมมีกี่ชนิด
อะไรบ้าง
(3 ชนิด คือ โปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอน)
2 อนุภาคที่เป็นส่วนประกอบสำคัญภายในนิวเคลียสของอะตอมคืออะไร
(โปรตอน และนิวตรอน)
3 โปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอน
มีสมบัติแตกต่างกันอย่างไร
(โปรตอน มีประจุ + 1 มีมวล 1.6725 ×
10-24 กรัม
นิวตรอน ไม่มีประจุ มีมวล 1.6748 ×10-24
กรัม
อิเล็กตรอน มีประจุ -1 มีมวล
9.11 × 10-24 กรัม)
4 อะตอมและโมเลกุลแตกต่างกันอย่างไร
- อะตอมเป็นอนุภาคที่เล็กที่สุดที่สามารถแสดงสมบัติของธาตุนั้น
ๆ ได้
แต่โดยทั่วไปอะตอมไม่สามารถอยู่โดยลำพังได้
จะต้องรวมกับอะตอมอื่น
โดยมีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอะตอมกลายเป็นโมเลกุลของสาร
- โมเลกุลของสารเป็นหน่วยย่อยที่สุดของสารที่สามารถอยู่ได้อย่างอิสระ
เกิดจากการรวมกันของอะตอมตั้งแต่
2 อะตอมขึ้นไป
5 แก๊สไฮโดรเจน (H2
) 1 โมเลกุล ประกอบด้วยไฮโดรเจน 2 อะตอม
จัดเป็นโมเลกุลของธาตุหรือสารประกอบ
(โมเลกุลของธาตุ)
6 น้ำ (H2
O) แก๊สออกซิเจน (O2 )
กลูโคส (C6 H12
O6 )
และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2
)
จัดเป็นโมเลกุลของธาตุหรือสารประกอบ เพราะเหตุใด
(โมเลกุลของธาตุ คือ
แก๊สออกซิเจน (O2 )
โมเลกุลของสารประกอบ
คือ น้ำ (H2 O)
กลูโคส (C6
H12 O6 ) และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 ))
ได้ข้อสรุป ดังนี้
“อะตอม คือ
อนุภาคที่เล็กที่สุดของสสารที่สามารถแสดงสมบัติเฉพาะตัวของธาตุชนิดนั้น ๆ ได้
แต่อะตอมไม่สามารถอยู่ได้อย่างอิสระโดยลำพัง ประกอบด้วยอนุภาคมูลฐานของอะตอม 3
ชนิด
คือ โปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอน
โดยโปรตอนและนิวตรอนอยู่ในนิวเคลียสของอะตอม
และมีอิเล็กตรอนเคลื่อนที่รอบ ๆ นิวเคลียสอย่างรวดเร็ว
โมเลกุล คือ
หน่วยที่ย่อยที่สุดของสารที่สามารถอยู่ได้อย่างอิสระ
เกิดจากการรวมกันของอะตอมตั้งแต่
2 อะตอมขึ้นไป แบ่งเป็น
โมเลกุลของธาตุ เช่น แก๊สออกซิเจน (O2) แก๊สไนโตรเจน (N2) และ
โมเลกุลของสารประกอบ เช่น แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
(CO2) น้ำ (H2O) ”
กิจกรรม เรื่องสมบัติของสารประกอบ
1 ปัญหาของการทดลองนี้คืออะไร
(โพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต (ด่างทับทิม) เป็นธาตุหรือสารประกอบ)
2 เมื่อเผาโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต
จงคาดคะเนผลการทดลองต่อไปนี้
1) ลักษณะโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนตก่อนเผาและหลังเผาเหมือนหรือต่างกัน
อย่างไร
(ต่างกัน คือ
หลังเผาน่าจะกลายเป็นสีดำ)
2) เมื่อทดสอบแก๊สที่เก็บได้จากการเผาโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนตด้วย
ก้านธูปที่เป็นถ่านแดงจะให้ผลเช่นไร
(จะมีเปลวไฟลุกติดขึ้นมา)
3) เมื่อหยดน้ำกลั่นลงในของแข็งที่เหลือจากการเผาแล้วเป็นอย่างไร
(จะมีสารบางส่วนละลายน้ำได้
บางส่วนไม่ละลายน้ำ)
3 การทดลองนี้นักเรียนควรระมัดระวังอะไรบ้าง
(- เมื่อจะดับไฟควรนำสายยางออกจากอ่างน้ำก่อน
เพื่อไม่ให้น้ำไหลกลับเข้าไป
ในหลอดทดลองหลังจากดับไฟ
- ควรระมัดระวังก้านธูปไม่ให้ไปจี้โดนเพื่อน
อาจได้รับอันตรายได้)
1 ผลการทดลองเป็นไปตามที่คาดคะเนหรือไม่
อย่างไร
(เป็นไปตามที่คาดคะเนไว้ คือ
เมื่อเผาด่างทับทิมจะได้แก๊สที่ช่วยให้ไฟติด
ของแข็งสีดำไม่ละลายน้ำ
และของแข็งสีเขียว ละลายน้ำได้)
2 โพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนตก่อนเผา
และหลังเผามีลักษณะแตกต่างกันอย่างไร
(ก่อนเผาเป็นของแข็งสีชมพูอมม่วง
ละลายน้ำได้ดี แต่หลังเผาได้สาร 3 ชนิด
คือ
ของแข็งสีดำ ไม่ละลายน้ำ ของแข็งสีเขียว ละลายน้ำได้ และแก๊สช่วยให้ไฟติด)
3 นักเรียนสังเกตเห็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการเผาโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนตเป็นกี่ชนิด
แต่ละชนิดมีสีและสถานะเป็นอย่างไร
(3 ชนิด คือ 1. ของแข็งสีดำ ไม่ละลายน้ำ 2. ของแข็งสีเขียวละลายน้ำได้
และ
3. แก๊สไม่มีสี
ช่วยให้ไฟติดได้)
4 แก๊สที่ได้จากการเผาคือแก๊สอะไร
ทราบได้อย่างไร
(แก๊สออกซิเจน เพราะมีสมบัติช่วยให้ไฟติด เมื่อทดสอบด้วยก้านธูปเป็นถ่านแดง
จึงมีเปลวไฟลุกติดขึ้นมา)
5 โพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนตจัดเป็นธาตุหรือสารประกอบ
เพราะเหตุใด
(สารประกอบ
เพราะประกอบด้วยธาตุมากกว่า 1 ชนิด
เนื่องจากในการเผาโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนตได้ผลิตภัณฑ์
3 ชนิด
ดังนั้น จึงจัดเป็นสารประกอบ)
6 จงสรุปผลการทดลอง
(เมื่อเผาโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนตจะได้ผลิตภัณฑ์เป็นสารใหม่ 3 ชนิด
แสดงว่าสารโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนตประกอบด้วยธาตุมากกว่า
1 ชนิด
จึงจัดโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนตเป็นสารประกอบ)
7 จงบอกความหมายของธาตุและสารประกอบพร้อมทั้งยกตัวอย่างธาตุและสารประกอบ
ที่พบในชีวิตประจำวันมาอย่างละ
3 ชนิด
(ธาตุ คือ สสารที่ประกอบด้วยอนุภาคเพียงชนิดเดียว
ไม่สามารถนำมาแยกสลายให้กลายเป็นสารอื่น
ๆ ได้ โดยวิธีการทางเคมี
เช่น คาร์บอน (C) อะลูมิเนียม
(Al)
กำมะถัน
(S)
ส่วนสารประกอบ
คือ สารบริสุทธิ์ที่เกิดจากการรวมตัวกันทางเคมีของธาตุมากกว่า 1 ชนิด
ในอัตราส่วนที่คงที่ เช่น น้ำ (H2O) น้ำตาลกลูโคส
(C6H12O6)
คาร์บอนไดออกไซด์
(CO2
))
สรุปผลการทำกิจกรรม
“สารประกอบ
คือสารบริสุทธิ์ที่เกิดจากการรวมตัวกันทางเคมี
ของอะตอมของธาตุมากกว่า
1 ชนิด ในอัตราส่วนที่คงที่”